หลักสูตรเกลียวสว่าน
หลักสูตรเกลียวสว่าน เป็นการจัดเนื้อหา
หรือหัวข้อเนื้อหาเดียวกันในทุกระดับชั้น
แต่มีความยากง่ายและความลึกซึ้งแตกต่างกัน กล่าวคือ
ในชั้นต้นๆจะสอนในเรื่องง่ายๆและค่อยเพิ่มความยาก
และความลึกลงไปตามระดับชั้นที่สูงขึ้นไป
ที่มาแนวคิดหลักสูตรเกลียวสว่าน
บรูเนอร์
(Bruner)
มีความเชื่อว่าในเนื้อหาของแต่ละเนื้อหาวิชาจะมีโครงสร้างและการจัดระบบที่แน่นอนจึงควรนำความจริงในข้อนี้มาใช้กับการจัดหลักสูตรโดยการจัดลำดับเนื้อหาให้ก้าวหน้าไปเรื่อยๆอย่างมีระบบจากง่ายไปหายากจากแนวความคิดนี้จึงมีการพัฒนาหลักสูตรในลักษณะบันไดวนหรือเกลียวสว่านคือให้ลึกและกว้างออกไปเรื่อยๆตามอายุและพัฒนาการของเด็ก
ดิวอี้ (Dewey, 1938)
มีแนวคิดเรื่องหลักสูตรสว่านแตกต่างไปจากบรูเนอร์ กล่าวคือ ดิวอี้ มีความเชื่อว่า
การเจริญงอกงามขึ้นอยู่กับการฝึกใช้สติปัญญาในการแก้ปัญหาที่ได้มาจากประสบการณ์การเรียนรู้ของผู้เรียนมากกว่าจากปัญหาที่กำหนดให้จากภายนอก
และในขณะที่ผู้เรียนฝึกใช้สติปัญญากับการแก้ปัญหาเหล่านี้ เขาจะได้ความคิดใหม่ๆ และพลังในการทำงาน ซึ่งจะเป็นฐานสำหรับแก้ปัญหาอื่นๆ อีกต่อไป
ในการปฏิบัติเช่นนั้นผู้เรียนจะเข้าใจถึงความสำคัญระหว่างกันของความรู้ในสาขาต่างๆ
และการประยุกต์ความรู้ไปใช้ในเชิงสังคมได้กว้างขวางขึ้น
กระบวนการจึงเป็นเสมือนเกลียวสว่านที่มีลักษณะต่อเนื่องและรับช่วงกันไป
ดังนั้น
เกลียวสว่านของดิวอี้จึงไม่ได้เริ่มที่ประสบการณ์ของผู้เรียนแต่เพียงประการเดียว ซึ่งนอกเหนือไปจากเนื้อหาวิชาที่จัดไว้สำหรับการเรียนรู้ของผู้ใหญ่แต่มองประสบการณ์ทางการศึกษาว่า
เป็นการขยายความสนใจและสมรรถภาพของผู้เรียนไปสู่ประสบการณ์การเรียนรู้ที่สูงขึ้นและกว้างขึ้น ดังนั้น
การเลือกเนื้อหาสาระที่จะต้องก้าวไปเรื่อยๆ
จำเป็นจะต้องสอดคล้องกับการเจริญงอกงามของประสบการณ์ ยกตัวอย่าง
เช่น
การศึกษาวิชาวิทยาศาสตร์นั้น
ดิวอี้ได้ยืนยันว่าไม่แต่การนำไปสู่ความเข้าใจวิทยาศาสตร์ที่ดีขึ้นเท่านั้น
แต่จะต้องนำไปสู่ความเข้าใจปัญหาของสังคมในขอบข่ายที่กว้างขึ้นและที่ดีขึ้นด้วย ในประเด็นนี้
จำเป็นต้องมีการสังเคราะห์หลักสูตรให้สมบูรณ์ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน ในแนวตั้ง
หมายถึง
การขยายความรู้ไปสู่ระดับที่สูงขึ้นไป
ส่วนแนวนอน หมายถึง
ความจำเป็นที่จะต้องมีความสัมพันธ์ระหว่างกันของความรู้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น